ตัวอย่าง SEO หลัง Penguin


ตัวอย่าง SEO หลัง Penguin


ตั้งแต่อัลกอใหม่ของ Google ที่เรียกว่า Penguin ออกมาก็มีคนสงสัยว่า SEO ยังใช้ได้ผลอยู่รึเปล่า เทพบางคนก็บอกว่า การทำ SEO ที่ดีที่สุดคือการไม่ทำ SEO สำหรับบางคนอาจจะเวิร์ค แต่สำหรับผมมันไม่เวิร์คซักเท่าไร เพราะยิ่งไม่ทำ SEO เว็บยิ่งติดอันดับช้า ไม่ทันกิน วันนี้ผมเลยจะยกตัวอย่าง Case Study ของ Pawel Reszka ซึ่งเป็น Affiliate Marketer ที่สร้างรายได้วันละหลายพันเหรียญมายกตัวอย่างให้ดูนะครับ

นี่เป็นรูปค่าสถิติของเว็บ Affiliate เว็บใหม่ของเขาซึ่งเพิ่งจะทำได้ไม่นาน จะเห็นได้ว่ามีคนเข้าวันละหลายร้อยเลยทีเดียว
สิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือการไม่ Over Optimize หน้าเว็บ อย่างที่ผมเคยบอกว่าให้เน้นว่าคนเห็นแล้วอยากอ่าน ไม่ใช่เต็มไปด้วย Keyword Stuffing
เราก็มาดูกันครับว่าสิ่งที่เค้าทำมีอะไรบ้าง
1. เพิ่ม 1 โพสต์ต่อสัปดาห์ –บทความที่เพิ่มเข้าไปนั้นจะมีคุณภาพสูงและมีความยาวขั้นต่ำ 1,300 คำ(ซึ่งยาวขนาดนั้นผมเห็นก็ปิดละ) ซึ่งอย่างที่ผมได้บอกไปว่ายิ่งบทความยิ่งยาว  Google ยิ่งชอบ เป็นความซาดิสต์ของทีมงาน Google
ในขั้นต้นก่อนที่จะทำการอัพเดทสัปดาห์ละบทความในเว็บของเขามีบทความอยู่แล้ว เพื่อที่คนเข้าเว็บมาสามารถอ่านบทความได้เลย ในส่วนนี้ผมคำนวณให้ว่าใช้เงินสร้างบทความเดือนละ $80 นะครับ หรือประมาณ 2,500 บาท
2. ไม่สร้างแบ็คลิงค์เป็น Anchor Text – หลักการหลักของ Penguin คือปราบเว็บที่ Over Optimize ซึ่งในส่วนนี้เราแก้ปัญหาโดยแทนที่จะใช้ Anchor Text เป็น Keyword ที่เราต้องการจะทำอันดับ เราก็ใช้คำธรรมชาติเช่น  “click here to visit”, “visit this site”, “check out this post” และอื่นๆ
3. ไม่ใช้ Tags – Google doesn’t ไม่ชอบ Tags โดยเฉพาะถ้าเว็บของคุณยังเป็นเว็บเล็กๆ การใช้ Tags จะทำให้เว็บของคุณมีหน้าซ้ำๆ ซึ่ง Google ไม่ค่อยชอบนัก ดังนั้นไม่ใช้เลยจะดีซะกว่า
4. ใส่ Nofollow กับ Cloak  Affiliate  Link – ใส่ Nofollow tags ให้กับ affiliate link และอย่าใส่ Affiliate links เหิน 2 Link ใน 1 บทความ
5. สร้าง Link ช้าๆได้พร้าเล่มงาม – สร้างลิงค์จากหน้าเว็บคุณภาพ มี PR สูงๆแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าสนใจจำนวนมากนัก
6. ซับมิตเว็บไซต์ไปยัง Web Directory – ให้ซับมิตเว็บไปยังเว็บไดเร็คทอรีต่างๆ แต่ว่าซับมิตไปเฉพาะเว็บที่เกียวข้องและมีคุณภาพเท่านั้น การซับมิตเว็บไปยังไดเร็คทอรีจะทำให้เว็บของคุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
7. ทำให้เว็บดูดี – Pawel ใช้ Thesis theme เขาบอกว่ามันทำให้เว็บดูดี ซึ่งเมื่อเว็บดูดีจะทำให้คนอ่านเว็บของเขามากขึ้น (Google ชอบ)
8. หา Social Signals – ทำให้บทความของคุณได้รับการ Share ได้ง่าย คุณอาจจะจ้างคนใน Fiverr เพื่อเพิ่ม Share ให้กับเว็บของคุณ โดยทั่วไปคนมักจะชอบกด Share ก็ต่อเมื่อบทความนั้นถูกแชร์บ้างแล้ว ในปัจจุบัน Google ให้ความสำคัญลิงค์จากการ Share และ Tweet มากขึ้นมาก เพราะฉะนั้นจุดนี้คุณไม่ควรละเลย
9. ไม่ใช้ GWT หรือ Google Analytics – เขาบอกว่า เขาไม่อยากให้ Google มายุ่งกับเว็บของเขา เขาเลยพยายามหลีกเลี่ยง Google Webmaster Tool กับ Google Analytics ไว้ก่อน (ซึ่งก็ไม่รู้จะช่วยรึเปล่า)
โพสต์นี้ผมนำมาลงเพราะอยากให้คนที่รู้สึกว่าไม่รู้ว่าจะลงมือทำดีรึเปล่า เริ่มลงมือทำซะ อย่าเชื่อที่คนอื่นฟังมาก ว่ายังงั้นยังงี้ไม่ได้ผล บางคนพอจะเริ่มทำ อ้าว Google ออก อัลกอใหม่อีกแล้ว รอดูไปก่อนดีกว่า แล้วพอรอดูไปซักพัก จะลงมือทำละนะ Google ก็ออกอัลกอใหม่ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปสุดท้ายคุณจะไม่ได้ลงมือทำอะไรเลย
ถ้าคุณอยากจะสำเร็จ การลงมือทำเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ




0 Responses