2.Web Proxy
Web Proxy
ก็คือตัว Proxy Server ซึ่งให้บริการการทำ Proxy แก่เราโดยผ่านเว็บนั่นเอง เราไม่จำเป็นต้องรู้ IP Address และ Port ของมันแต่อย่างใด แค่เพียงเข้าที่เว็บที่ให้บริการนี้ คุณจะเห็นช่องข้อความของเว็บปลายทาง เราแค่ใส่ที่อยู่ของเว็บที่เราต้องการจะไปในช่องนั้น แล้วกดปุ่ม Submit ที่อยู่ใกล้เคียงกับช่องนั้น มันจะไปอ่านเว็บปลายทางนั้นมาแสดงให้เราทันที
Web Browser (You) <—> Web Proxy <—> Web
มีสิ่งที่ควรสังเกตอยู่อย่างหนึ่งในระหว่างการใช้ Web Proxy ก็คือ ขณะที่มันแสดงเว็บปลายทางให้เราอยู่ เราจะสังเกตเห็นได้ว่าลิงค์ (Link) ต่างๆ ที่อยู่ในเว็บปลายทาง (ลองเอาเมาส์ไปชี้ที่ลิงค์ต่างๆ ดู จะเห็นลิงค์ปลายทางที่จะไป แสดงให้เห็นที่แถบสถานะด้านล่างของ Web Browser) ไม่ใช่ลิงค์จริง แต่เป็นลิงค์ที่ชี้ผ่านตัว Web Proxy อีกทีหนึ่ง นั่นหมายความว่า เมื่อเราคลิกที่ลิงค์ใดๆ ที่มันนำมาแสดงให้เห็น จะเป็นการเรียกลิงค์นั้นผ่านบริการ Proxy ของมันอีกโดยอัตโนมัติ เราไม่ต้องเสียเวลากลับไปใส่ที่อยู่ของลิงค์ในช่องข้อความอีกครั้ง อย่างที่ทำในครั้งแรก ง่ายดีนะ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นได้ เพราะตัวในระหว่างที่ Web Proxy ไปอ่านเว็บปลายทางมา มันจะทำการเปลี่ยนข้อมูลของลิงค์เหล่านั้น เป็นลิงค์ที่ผ่านตัวมันเองก่อน เมื่อเราคลิกที่ลิงค์นั้นมันจะแปลความหมาย ให้ได้ลิงค์ปลายทางที่แท้จริง และไปนำเว็บปลายทางมาแสดงให้เราอีกครั้ง (ซึ่งแน่นอน มันจะแปลงลิงค์ใดๆ ที่มันเจอในหน้าเว็บปลายทาง ให้ไปชี้ที่มันก่อนเสมอทุกครั้ง เป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ)
ดูวิธีการใช้งานแล้วก็ง่ายดี ไม่ยุ่งยาก แต่ก็พึงระลึกไว้เสมอละกัน ว่าถ้าเราไปเจอคนกลางที่ไม่ดีเข้า ข้อมูลใดๆ ที่เราป้อนในขณะใช้งานคนกลางอยู่ เขาอาจจะเก็บไว้หรือไม่ก็ได้ ใครจะไปรู้ ดังนั้น หากริจะใช้คนกลาง (Proxy) แล้ว ขอแนะนำว่าอย่าใช้กับเว็บปลายทางหรืองานที่มีความสำคัญ เช่น ธุรกรรรมต่างๆ โดยเฉพาะธุรกรรมทางการเงิน, อ่านอีเมล์สำคัญ ที่คุณใช้เป็นหลัก
หากข้อมูลสำคัญนี้หลุดไปอยู่ในมือคนกลางที่ไม่ดีแล้วละก็ เราทุกคนคงไม่ต้องเดาผลเสียหายกันหรอกนะ บางคนอาจสงสัยว่า แล้วอีเมล์ของเรามันสำคัญขนาดนั้นเชียวหรือ ก็ลองคิดดูแล้วกัน ว่าหากชื่อและรหัสของอีเมล์ของเราหลุดไปอยู่ในมือผู้ไม่ประสงค์ดี แล้วคนเหล่านั้นเข้าไปอ่านอีเมล์เรา ได้ข้อมูลส่วนตัว เดาได้ว่าเราเป็นสมาชิกที่ไหนบ้าง (หรือพบชื่อและรหัสผ่านของบริการอื่นๆ อยู่ในบัญชีอีเมล์นั้นด้วย) จากนั้นตามไปยังที่ที่เราเป็นสมาชิก ลองใช้อีเมล์และรหัสผ่านเดียวกันดู (หลายคนเป็นโรคขึ้เกียจ ชอบใช้อีเมล์เดียว รหัสผ่านเดียวกันหมด) แล้วบังเอิญเข้าไปใช้งานได้ ข้อมูลของเราต่างๆ ก็จะพรั่งพรูออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ ยิ่งกว่าฝันร้ายหล่ะคราวนี้
ถ้าใครจำเป็นต้องใช้อีเมล์ในบริการที่ไม่ใช้ธุรกรรมสำคัญ เช่น กระดานสนทนาหรือเว็บบอร์ด, สมาชิกบล็อก, สมาชิกโหลดไฟล์ต่างๆ และอื่นๆ ที่ไม่สำคัญในการทำธุรกรรม ขอแนะนำให้ไปสมัครอีเมล์ฟรีซึ่งมีบริการอยู่ทั่วไป (อย่าใช้ชื่อและรหัสผ่านที่ใช้ในบัญชีสำคัญหล่ะ) แล้วนำอีเมล์นั้นไปใช้งานอีทีหนึ่งจะดีกว่า
ตัวอย่าง Web Proxy
ค้นหาได้จากเว็บค้นหายอดฮินนั่นแหละ Google, Yahoo หรือที่อื่นๆ ก็ได้ ใส่คำว่า “Free Web Proxy” เข้าไป เราจะเห็นบริการเหล่านี้อยู่เต็มไปหมด เลือกใช้แล้วระวังตัวไว้ดัวยแล้วกัน ตัวอย่าง Web Proxy ที่หาเจอจากการค้นหาก็เช่น
- http://proxify.com หรือ https://proxify.com อันนี้ถ้าใช้ https (มี s ด้วย) ก็ปลอดภัยขึ้นมาอีกนิด นัยว่ามีความพยายามเข้ารหัสระหว่างเรากับผู้ให้บริการ Proxy ด้วย ทำให้ถูกผู้บริให้บริการอินเตอร์เน็ท (ISP) บล็อกยากขึ้น
- http://ninjacloak.com หรือ https://ninjacloak.com อันนี้ยังไม่เคยใช้ ใครเคยลองแล้ว ช่วยมาแสดงความคิดเห็นด้วยให้ทราบด้วยก็แล้วกัน เขามี https ให้ใช้เหมือนกัน
- http://www.hiddencloak.com
- http://www.surfingincognito.com